ประวัติ
ชื่อ - สกุล:สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว
บี้
4 กันยายน 2528
โสด
25 ปี
175 ซม.
66 กก.
นักร้องและนักแสดง
การศึกษา
ปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 ภาควิชา วิศวกรรมอุตสาหกรรม สาขาวิชา วิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
จบการศึกษา โรงเรียนมงฟอร์ดวิทยาลัย
งานอดิเรก
ร้องเพลง
เล่นอินเตอร์เนท
สิ่งที่ชื่นชอบ
แนวเพลงที่ชอบ ป๊อป
ศิลปินที่ชอบ
บอย พีซเมกเกอร์
นิสัยส่วนตัว
รักสนุก สบายๆ ไม่เรื่องมาก ชอบมุขฝืด (มุขแป้ก)
อาหารที่ชอบ
ไก่ทอด KFC
สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว หรือ
บี้ เดอะสตาร์ เป็น
นักร้อง และ
นักแสดงชาวไทย สังกัด
เอ็กแซ็กท์ ในเครือ
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ บี้ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศจากการแข่งขันรายการ
เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 3 มีผลงานสร้างชื่อชิ้นแรก คือ ผลงานเพลง
I Need Somebody[ต้องการอ้างอิง] ปัจจุบันมีผลงานในวงการบันเทิงในหลากหลายสาขา ทั้งผลงานเพลง และ ผลงานการแสดง เช่น
ละครโทรทัศน์,
ละครเวที และ
ซิทคอม
ในระยะเวลา 2 ปีในการวงการบันเทิง บี้ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของไทยประจำปี 2551 ร่วมกับบุคคลสำคัญของไทยในแวดวงต่างๆทั้งด้านการเมืองและสังคม โดยนิตยสาร
Positoning[1] และเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลวงการบันเทิงไทย โดย
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ[1

บี้ เกิดวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2528 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่สอง มีพี่สาวชื่อ "แมลงปอ" ชื่อ "บี้" นั้นมาจากภาษาคำเมืองว่า "กัมบี้" (แปลว่า แมลงปอ) บิดาเป็นข้าราชการสังกัดกรมป่าไม้ มารดาเป็นข้าราชการครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ บี้ เข้าศึกษาชั้นอนุบาลที่โรงเรียนสายดรุณ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สายวิทย์-คณิต และเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชากลไกอิเล็กทรอนิกส์ (เมคคาทรอนิกส์) [2]
ขณะศึกษาในระดับอุดมศึกษาบี้ยังได้รับเกียรติให้เป็นประธานชั้นปีของภาควิชาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ต่อมาภายหลังเนื่องด้วยภารกิจทางด้านบันเทิงจึงได้ทำการสละสิทธิ์จากตำแหน่งนั้น และบี้ยังได้รับเลือกเป็นตัวแทนในกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย และเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่มหาวิทยาลัย [3] และได้รับเกียรติเป็นตัวแทนบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา ถวายพวงมาลัยข้อพระกร แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในปี พ.ศ. 2552 อีกด้วย[4]

เข้าสู่วงการบันเทิง
ในปี พ.ศ. 2549 บี้ เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ
เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 3 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย และเข้าทำการแข่งขัน ณ สตูดิโอมูนสตาร์
ลาดพร้าว ขณะแข่งขัน บี้ ได้รับฉายา เจ้าจิ้งจกน้อย แห่งเวที
เดอะสตาร์ และสามารถผ่านเข้าถึงรอบสองคนสุดท้าย ทำการแข่งขัน ณ
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ได้รับตำแหน่งรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และทำให้ บี้ เป็นที่รู้จักในนาม "
บี้ เดอะสตาร์" (
อังกฤษ:
Bie The Star)
ปลายปี พ.ศ. 2549 นี้ บี้ ได้เริ่มต้นสร้างผลงานในวงการบันเทิงด้วยการรับบทเป็นพระเอกในละครเรื่อง “
รอยอดีตแห่งรัก” แสดงคู่กับ
พีรชยา พิณเมืองงาม[5]กำกับการแสดงโดย
ถกลเกียรติ วีรวรรณ[6] ซึ่งได้รับความนิยมในขณะนั้น
[7] และเขายังได้รับโอกาสร้องเพลงประกอบละครเป็นครั้งแรก ในเพลง "ตัดใจไม่ไหว" ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรก คือ อัลบั้ม เลิฟ ซีน (
อังกฤษ:
Love Scenes)
[8] โดยซิงเกิลแรกที่ปล่อยออกมา คือเพลง "I Need Somebody" ซึ่งขึ้นอันดับ นิว เอนทรี (
อังกฤษ:
New Entry) ตามชาร์ตวิทยุอย่างรวดเร็ว ได้รับกระแสนิยมมากในขณะนั้น และยังสามารถครองอันดับ 1 ของซี๊ดเรดิโอชาร์ตได้ถึง 4 สัปดาห์ และเป็นเพลงที่ได้รับรางวัลเพลงยอดนิยมสุดซี๊ดประจำปี จาก ซี๊ด อวอร์ดส 2007 (
อังกฤษ:
Seed Awards 2007)
[9] รางวัล เพลงรักแห่งปี จาก อินยังเจเนอรชันชอยส์ อวอร์ดส 2006 (
อังกฤษ:
In Young Generation Choice Awards 2006) และรางวัลเพลงยอดนิยม จาก
รางวัลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส 2006 (
อังกฤษ:
Star Entertainment Awards 2006) นอกจากนี้แล้วเพลง "I Need Somebody" ยังเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณาโฟโมสต์ ไฮไฟว์ ซึ่งออกอากาศในปี 2550 อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2550 “บี้” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับนมถั่วเหลือง
โฟร์โมสต์ โดยค่าย
โฟร์โมสต์เลือกกลยุทธ์ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นเจ้าแรกในตลาดสินค้า
นมถั่วเหลืองในขณะนั้น
[10] และในอีกไม่กี่เดือนต่อมา “บี้” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ “
โซนี่ ไซเบอร์ช็อต” (
อังกฤษ:
Sony Cyber Shot) ซึ่งเป็นครั้งแรกเช่นกันที่โซนี่เลือกใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์
[11] และเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ (
อังกฤษ:
Brand ambassador) ให้กับ
โซนี่ มาจนถึงปัจจุบัน ในปีนี้บี้ได้รับโอกาสให้ลงเล่นละครเป็นเรื่องที่ 2 กับค่าย
เอ็กแซ็กท์ในเรื่อง “
หัวใจศิลา” คู่กับ
พิชญา ศรีเทพย์ [12] และในระหว่างถ่ายทำละครเรื่องนี้ทำให้บี้ได้รับโอกาสไปเรียนการแสดงเป็นครั้งแรก
[13] กับ
หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล (หม่อมน้อย) ทำให้การแสดงของเขาพัฒนาขึ้น จึงทำให้บี้ได้รับโอกาส รับบท "ปกรณ์" ในละครเวทีเรื่อง
บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล กำกับการแสดงโดย
ถกลเกียรติ วีรวรรณเจ้าของละครเวทีแห่งค่าย
ซีเนริโอ (
อังกฤษ:
Scenario) ซึ่งจัดแสดงในปีเดียวกัน และทำให้เขาได้แจ้งเกิดในศาสตร์การแสดงละครเวที
ในปี พ.ศ. 2551 เดือน
มกราคม บี้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ในชื่อ
ไอเลิฟยูทู (
อังกฤษ:
I Love You Too)
[14] [15] และจัดมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่สอง ณ
เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ มีเพลงที่ได้รับความนิยม เช่น “จังหวะหัวใจ” “Someone” “อยากถูกเรียกว่าแฟน” เป็นต้น
[16]
กลางปี พ.ศ. 2551 บี้ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ
โทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ “
ไอ-โมบาย” (
อังกฤษ:
I Mobile) โดยรุ่นที่เป็นพรีเซ็นเตอร์สามารถสร้างยอดได้ขายกว่า 1 ล้านเครื่อง
[17] ในเดือน
พฤษภาคม ค่าย
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ร่วมกับค่าย
เอ็กแซ็กท์และ
ซีเนริโอจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกให้กับ บี้ ณ
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี คอนเสิร์ต บี้ เลิฟแอตแทก (
อังกฤษ:
Bie Love Attack) มีแขกรับเชิญ เช่น
แพท สุธาสินี,
นก สินจัย,
อาร์ เดอะสตาร์,
รุจ เดอะสตาร์,
แก้ม เดอะสตาร์,
ต้น เดอะสตาร์,
ดิว เดอะสตาร์ 4,
อู๊ด เป็นต่อ ฯลฯ ในเบื้องต้นมีแนวคิดว่าสถานที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่เกินไป แต่ด้วยสาเหตุที่สถานที่อื่นซึ่งเล็กกว่าอิมแพคนั้นถูกจองไว้หมดแล้วในช่วงเวลาที่ต้องการจัดคอนเสิร์ต ดังนั้นทีมงานจึงต้องเลือกจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ณ สถานที่ดังกล่าว
[18] แต่เมื่อไทยทิกเก็ตเมเจอร์เปิดจำหน่ายบัตร บัตรเข้าชมได้รับการจองอย่างรวดเร็ว และจำหน่ายหมดภายในเวลาภาย 2 วัน จึงได้มีการเพิ่มรอบการแสดงอีกหนึ่งรอบ เป็นวันที่ 24 และ 25
พฤษภาคม พ.ศ. 2551[19]
ในเดือน
สิงหาคม บี้ ได้รับเลือกให้กลับมาแสดงละครเวทีอีกครั้งหนึ่ง โดยรับบท
นพพร ในละครเวทีเรื่อง
ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล รับบทนำคู่กับ
สุธาสินี พุทธินันท์ (แพท) ซึ่งทำให้การคาดการณ์ของใครหลายคนก็เป็นจริงเมื่อบี้รับบทเป็นนพพรในปี พ.ศ. 2551 แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อสงสัยกันว่า
"ทำไมต้องเป็นบี้ และยังได้รับบทเด่นถึงขั้นเป็นพระเอก เป็นตัวสำคัญในการเดินเรื่อง"[20] โดยได้รับคำตอบจากผู้กำกับว่า
"คิดอยู่ในใจตั้งแต่แรกว่าน่าจะเป็นบี้ แต่ยังไม่ 100% จนกระทั่งเห็นผลงานจากอัลบั้มที่สองว่าเขาร้องเต้นได้ดี ฟีดแบ็กดี ทุกวันนี้ถ้านพพรเป็นคนอื่น น่าจะมีคำถามมากกว่าว่า ทำไมนพพรไม่เป็นบี้"[21] และละครเวทีเรื่องนี้ทำให้ บี้ แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำในศาสตร์การแสดงละครเวทีอีกครั้ง จากบท นพพร ในปีพ.ศ. 2551 ต่อมา “บี้” ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรถจักรยานยนต์
ฮอนด้า คลิก ไอ (
อังกฤษ:
Honda Click-i) พร้อมกับออกอีเวนต์คอนเสิร์ตจัดโดยฮอนด้าคลิกไอทั่วประเทศ และในปีนี้ บี้ ยังได้รับ
“รางวัลขวัญใจมหาชน” จาก
รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 (
อังกฤษ:
9 Entertainment Awards 2009) และ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน ผู้ทรงอิทธิพลวงการบันเทิงไทย ร่วมกับดาราศิลปินอื่นๆ โดยหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และเป็นหนึ่งใน ผู้ทรงอิทธิพลไทยประจำปี 2551 ร่วมกับบุคคลสำคัญของไทยในแวดวงต่างๆ โดยนิตยสาร Positoning
[1]
ในปี พ.ศ. 2552 “บี้” เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ ผลิตภัณฑ์
หมากฝรั่งและลูกอม “คลอเร็ท”
[22] (
อังกฤษ:
Cloret) โดย ปุณณิฏฐา พันธุ์ทวี ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ “คลอเร็ท” กล่าวว่า
"ความนิยมที่ผู้บริโภคเป็นคนเลือก บุคลิกของแบรนด์คลอเร็ทและบี้ก็บังเอิญคล้ายคลึงกัน"[23] บี้ ออกอัลบั้มที่สาม ในชื่อว่า ฮักบี้ (
อังกฤษ:
Hug Bie)
[24] ในช่วงเดือน
มีนาคม มีเพลงยอดนิยม เช่น Wait a Minute, มากมาย, ความทรงจำในลมหายใจ, Hug, 7 วันที่ฉันเหงา, ขอโทษ เป็นต้น โดยอัลบั้ม ฮักบี้ (
อังกฤษ:
Hug Bie) เป็นอัลบั้ม ที่มียอดดิจิตอลดาวโหลดสูงสุดของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ในปีนั้น
[25] ในเดือน
มิถุนายน บี้ได้รับโอกาสเล่นละครข้ามค่ายเป็นครั้งแรก กับค่ายละครไท ของผู้จัดละครชื่อดัง ดา หทัยรัตน์ อมตวนิชย์ อย่าง
อุ้มรัก สวรรค์เบี่ยง ทาง
ช่อง 3 โดยเล่นในละครเรื่อง “
พระจันทร์สีรุ้ง” ประกบคู่กับ
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ร่วมด้วย
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง,
จินตหรา สุขพัฒน์ กำกับการแสดงโดย ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
[26] และต่อมาในเดือน
กรกฎาคม ค่าย
จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ร่วมกับค่าย
เอ็กแซ็กท์และ
ซีเนริโอจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่สองให้กับ บี้ ณ
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี คอนเสิร์ต บี้ เลิฟมากมาย (
อังกฤษ:
Bie Love Mark Mai) มีแขกรับเชิญ เช่น
แอฟ ทักษอร,
นาวิน ต้าร์,
ติ๊ก ชีโร่, เชษฐ์
สไมล์บัฟฟาโล่,
สิงโต เดอะสตาร์ และ
แกรนด์ เดอะสตาร์ เป็นต้น และสามารถเปิดการแสดงถึง 2 รอบเต็มได้อีกเช่นกัน โดยจัดรอบการแสดงเมื่อวันที่ 11 และ 12
กรกฎาคม พ.ศ. 2552 แม้ว่าในช่วงดังกล่าว มีการแพร่ระบาดของ
ไข้หวัด 2009 (
อังกฤษ:
Influenza A virus subtype H1N1) อย่างหนัก และมีข่าวให้ยกเลิกการเข้าชมคอนเสิร์ตหรือการชุมนุมเป็นกลุ่มใหญ่ก่อนวันทำการแสดง แต่ผู้ชมก็ยังคงเข้าชมการแสดงอย่างเนืองแน่น
[27]
ในปี พ.ศ. 2553 “บี้” มีผลงานเพลง ในชื่ออัลบั้ม อิทส ออลไรท์ (
อังกฤษ:
It's Alright) ออกเป็นมินิอัลบั้มจำนวน 3 เพลง มีเพลงดังอย่าง "เพลงรัก" ซึ่งเป็นเพลงที่ติดชาร์ตอันดับ 1 ทั่วประเทศ และอันดับ 1 จากซี๊ดชาร์ต 5 สัปดาห์ และยังติดอันดับ Top Download ของแกรมมี่นานสองเดือนติดต่อกัน ในปีนี้มีผลงานทางด้านการแสดง
ละครโทรทัศน์แนวโรแมนติกคอมาดี้เรื่อง “
ดอกรักริมทาง” โดยค่าย
เอ็กแซ็กท์ แสดงนำคู่กับ
วรรณรท สนธิไชย ออกอากาศทาง
ช่อง 5
ในปีนี้บี้ยังมีกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยการคว้ารางวัล
“ขวัญใจมหาชน” จาก
ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 3 (
อังกฤษ:
9 Entertainment Awards 2010) เป็นปีที่ 2, เช่นเดียวกับ
“รางวัลนักร้องยอดเยี่ยม” จาก
ท็อปอวอร์ด 2009 (
อังกฤษ:
Top Awards 2009) ซึ่งได้รับรางวัลติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เช่นกัน ในปีนี้ยังได้รับรางวัลในงาน
คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 7 ในฐานะ
“นักแสดงชายยอดนิยม”[30] จากละครเรื่อง “
พระจันทร์สีรุ้ง” นอกจากนั้นแล้วยังตามมาด้วยรางวัลยอดนิยมและรางวัลพิเศษจากอีกหลายสถาบัน ได้แก่
“ศิลปินยอดนิยมสุดซี้ดประจำปี” จาก ซี๊ด อวอร์ดส์ 2010 (
อังกฤษ:
Seed Awards 2010),
“นักร้องชายยอดนิยม” จาก
รางวัลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส ครั้งที่ 8 (
อังกฤษ:
Star Entertainment Awards 2009),
“รางวัลมิวสิกวิดีโอเพลงไทยสากลดีเด่น "เพลง ฮัก (Hug)"” จาก
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 24,
“รางวัลสตาร์ป็อปปูลาร์โหวต” จาก
สยามดาราสตาร์อวอร์ด 2010 (
อังกฤษ:
Siam Dara Stars Awards 2010) เป็นต้น
ในเดือน
กรกฎาคม บี้ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดอินทาราม จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา เพื่อทดแทนคุณพ่อและคุณแม่ โดยงานนี้มีดาราและ
ศิลปินมาร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้กันอย่างคับคั่ง นำโดย
บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ
นักแสดงจากค่าย
เอ็กแซ็กท์ สำหรับพระบี้ได้รับฉายาว่า
“ฐิตรตโน” แปลว่า
ผู้มีรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง และพระบี้จะศึกษาพระธรรมเป็นเวลา 10 วัน จำวัดที่วัดอินทารามประมาณ 2 คืน และจะเดินทางไปธุดงค์ที่ต่างจังหวัดทันที และพระบี้ได้ลาสิขาบทเมื่อวันที่
12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา
กิจกรรมเพื่อสังคม
บี้ ได้เข้าร่วมในกิจกรรมทางด้านสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่นการเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ในกิจกรรมต่างๆ และยังได้รับรางวัลในสาขาทางด้านสังคมหลายรางวัล เช่น
รางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ (สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม) ในปี 2552
[29],
รางวัลลูกกตัญญู ในปีเดียวกัน เป็นต้น
ปี 2551 บี้ได้รับเลือกให้เป็น
ตัวแทนกำลังใจ ในโครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยกระทรวงยุติธรรม ประจำปี พ.ศ. 2551 และได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน
พรีเซ็นเตอร์รณรงค์เรื่องยาเสพติด จาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยเป็น
ตัวแทนในเรื่องความเพียร[31] ต่อมา บี้ ได้รับเลือกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็น
พรีเซ็นเตอร์รณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ร่วมกับ
เจมส์ เรืองศักดิ์ [32] นอกจากนั้นแล้วยังได้เข้าร่วมในโครงการ
"Just Say No" ในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดอีกด้วย
ปี 2552 บี้ได้รับเลือกจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็น
พรีเซ็นเตอร์ในโครงการรณรงค์การออกกำลังกาย โดยจัดทำเพลงและมิวสิกวีดีโอในชื่อ ฟิตหัวใจ เป็นเพลงรณรงค์ในการออกกำลัง
[33] และเนื่องจากเป็นผู้ที่มีกิจกรรมดีเด่นทั้งทางด้านสังคมและกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัย จึงได้รับเลือกเป็นหนึ่งในตัวแทนบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ถวายพวงมาลัยข้อพระกร แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
[34] ในปี 2553 บี้เป็นหนึ่งในตัวแทนดาราศิลปินเข้าร่วมในโครงการ
“The Big Green Miracle” ในโครงการคนหล่อขอทำดี ของนิตยสารสุดสัปดาห์ โดยเป็น
ตัวแทนในโครงการสร้างแนวเขื่อนสลายกำลังคลื่น ที่บ้านขุนสมุทรจีน[35]
- ตัวแทนกำลังใจ ในโครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา กระทรวงยุติธรรม ประจำปี พ.ศ. 2551
- พรีเซ็นเตอร์รณรงค์เรื่องยาเสพติด ปปส. ในเรื่องความเพียร ประจำปี พ.ศ. 2551 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) [31]
- พรีเซ็นเตอร์รณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ประจำปี พ.ศ. 2551 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์[32]
- พรีเซ็นเตอร์โครงการแค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย (สสส.) ประจำปี พ.ศ. 2552 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) [33] ในชุดเพลงรณรงค์คือเพลง 'ฟิตหัวใจ' โดย 'บี้ สุกฤษฎิ์'
บี้